ข่าวสาร
::: สนใจเช่าจองพระภายในร้าน เพียงสมัครสมาชิกก็เข้าจองผ่านระบบได้ด้วยตัวท่าน หรือจะจองตรงกับผมได้เลย โทร 080-3578737 ID Line:Thornna ....:::
ผู้เข้าชมในวันนี้ 689
ผู้เข้าชมเมื่อวานนี้ 819
ผู้เข้าชมเดือนนี้ 18,661
ผู้เข้าชมเดือนที่แล้ว 27,672
ผู้เข้าชมปีนี้ 346,020
ผู้เข้าชมปีนี้ที่แล้ว 453,074
กสิกรไทย
สาขา โลตัส หนองเรือ
สุนทร สมบูรณ์
793-2-04949-4

   

  

    เหรียญหลวงพ่อผาง จิตตคุตโต

     

     เหรียญ หลวงปู่ขาว อนาลโย รุ่นแรก 

     

   เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล 

   

 

         เหรียญดอกบัว พุทโธ เนื้อเงิน 

 

        

           

          พระปิดตา หลวงปู่ทิม อิสริโก

       เหรียญ พระอาจารย์แหวน ทยาลุ

      เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล             

 

              ลิ้งค์ เพื่อนบ้าน

                     

                      

                     

                     

                     

 

              

         พัสดุถึงไหนแล้ว เช็คเลย

   

เหรียญ รุ่น 2 หลวงปู่สาย หรือ พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์ วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร ๒๕๐๙
หมวดหมู่ : พระเกจิ ภาคกลาง
จังหวัด : สมุทรสาคร
รหัสสินค้า : 03571
ราคา : บาท
จำนวนผู้เข้าชม : 2341
สถานะสินค้า :

 
 
   

เหรียญ รุ่น2 หลวงปู่สาย หรือ พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์ วัดหนองสองห้อง จ.สมุทรสาคร ๒๕๐๙

เหรียญเก่าผิวเดิมเก่าตามอายุดูง่าย สภาพสวยมาก 

อีกหนึ่งในพระเกจิสุดยอดพุทธาคมเข้มขลังของเมืองสมุทรสาคร ... ประวัติของหลวงพ่อสาย ... หลวงปู่สาย หรือ พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์  เมื่อเยาว์วัย หลวงปู่ได้เรียนหนังสือกับหลวงปู่นิล วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร ( เหรียญหล่อของท่านดังและพุทธคุณเด่นมากๆ คนมหาชัยรู้ดีและหวงด้วย ) ทั้งภาษาไทยและภาษาขอม จนมีความรู้ความชำนาญในด้านภาษาไทยเทียบเท่าชั้นประถม 4 ในด้านภาษาขอม ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนสามารถจารอักขระลงในใบลานเป็นหนังสือเทศน์ได้อย่างดี เมื่ออายุได้ 15 ปี ได้บรรพชาเป้นสามเณร ณ วัดตึก โดยมีหลวงปู่นิล เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อได้บรรพชาเป็นสามเณรแล้วได้รับมอบหมายจากหลวงปู่นิล ได้เป็นผู้จารหนังสือเทศน์เป็นภาษาขอมลงในใบลานวันละหลายๆหน้า เพราะหลวงปู่มีความวิริยะอุสาหะใหนการทำงานเป้นอย่างยิ่ง ท่านเคยเล่าให้ฟังว่ากิจวัตรของหลวงปู่สมัยเป็นสามเณร เวลาเช้าก็บิณฑบาต เมื่อกลับจากบิณฑบาตก็ถวายการปรนนิบัติอุปัชฌาย์จารย์ แล้วก็เริ่มจารหนังสือขอมลงในใบลานตลอดวัน เว้นระยะฉันเช้าและเพลเท่านั้นจะหยุดพักจำวัดต่อเมื่อ 5 ทุ่มเศษ และตื่นจากจำวัตรเวลาตี 4 ของทุกวัน*อุปสมบท*หลวงปู่อายุได้ 20 ปี ก็เข้ารับการอุปสมบท ณ วัดตึกมหาชยาราม สมุทรสาคร โดยมี หลวงปู่นิล วัดตึก เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากบวชแล้วได้จำพรรษา ณ วัดตึก ได้ 9 พรรษา ก็ได้ทำการลาสิกขาบท เพื่อไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพยังภูมิลำเนาเดิม อุปสมบทครั้งที่ 2. เมื่อหลวงปู่ลาสิกขาบทได้ 7 วัน จะเป็นด้วยบารมีที่หลวงปู่สั่งสมไว้หรือไม่ ท่านได้รับการเข้ารับการอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อ 9 เมย. 2468 ณ วัดใหม่โพหัก ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี โดยมีพระอธิการแช่ม วัดดอนเซ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมสาทิศ (แม้น) เป้นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ปลื้ม วัดโพหัก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และหลวงปู่ได้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้อง ทั้งนี้ทั้งนั้นก่อนที่ท่านจะลาสิกขาครั้งแรก ท่านก็ได้รับการเชิญจาก ทายก ทายิกาให้มาจำพรรษา ณ วัดหนองสองห้องก่อนแล้ว..ครั้นอุปสมบทแล้วได้เดินทางมาจำพรรษาอยู่ที่ วัดหนองสองห้อง ตำบลหนองสองห้อง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร “หลวงปู่สาย” สมัยมีชีวิตเป็นพระที่มีจริยาวัตรงด งามเป็น พระสุปฏิปันโน พระนักพัฒนา สร้างความเจริญรุ่งเรืองทางด้านศาสนา มีเมตตาธรรม สมถะเรียบง่าย ไม่โอ้อวด ไม่สะสมทรัพย์สมบัติใดๆ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงเปรียบเสมือนดุจ หลักชัยยึดจิตใจชาวบ้านมาโดยตลอดท่านไม่เคยโกรธ ไม่อิจฉาริษยา ไม่เบียดเบียนใคร มีแต่เมตตาให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือผู้ที่ทุกข์ร้อน ทางกาย ทางใจมาโดยตลอด ท่านมีความวิริยะอุตสาหะในคันถธุระและวิปัสสนาธุระ จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง “เจ้าอาวาสวัดหนองสองห้อง” เมื่อ พ.ศ.2474 และได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “พระครูสังวรสุตาภิวัฒน์”

         เมื่อปี พ.ศ.2509 “หลวงปู่สาย” สร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่างเพื่อแจกจ่ายให้กับบรรดา “ศิษยานุศิษย์” และ “ญาติโยม” เนื่องในวาระโอกาสต่างๆโดยบางชนิดทางศิษย์จัดทำมาแล้วให้ท่านปลุกเสกก็มี และวัตถุมงคลของท่านมีทั้งพระเครื่อง “เนื้อโลหะ, เนื้อผง, เนื้อดินเผา, รูปเหมือนขนาดเล็ก, เหรียญปั๊ม, ล็อกเกต, ตะกรุด, แหวนมงคล ฯลฯ”

        ซึ่งท่านเริ่มสร้างวัตถุมงคลมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2471 ส่วนใหญ่เป็นรูป “หลวงพ่อพุทธศิลา” ซึ่งเป็น “พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์” ประจำวัดและเป็น “พระพุทธรูปหินทราย” เก่าแก่ปาง “มารวิชัยสมัยอยุธยา” มีขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 2เมตร จึงมีทั้งคนไทยและคนจีนไปกราบไหว้บนบานเป็นประจำ ส่วน “พระพุทธศิลา” ที่ท่านสร้างไว้มีทั้ง “เนื้อดินเผา” และ “เนื้อโลหะ” ชนิดเนื้อโลหะเรียกกันว่า “เนื้อพันแปดไฟ” หรือ “เนื้อธาตุไฟพันแปด” เพราะวิธีการสร้างของท่านนั้นจะทำการนำ “แผ่นตะกั่ว แผ่นเงิน” มาจารอักขระเลขยันต์แล้วจึงนำไปหลอมพอโลหะเย็นแข็งตัวแล้ว ก็จะนำมาลงอักขระเลขยันต์อีกทำเช่นนี้จนครบ “1008 ครั้ง” จึงใช้ได้และไม่ใช่เฉพาะวัตถุมงคลประเภทเนื้อโลหะเท่านั้นชนิดอื่นๆเช่น “เหรียญ” ท่านก็จะปลุกเสกอย่างดีเช่นเดียวกัน โดยแต่ละขั้นตอนกรรมวิธีมีความพิถีพิถันมาก จากนั้นจึงดำเนินการปลุกเสกจนกระทั่งเห็นว่า “ดีครบถ้วน” จึงนำออกมาแจกจ่ายแก่บรรดาญาติโยมและบรรดาศิษยานุศิษย์ วัตถุมงคลของหลวงปู่สายจึงมีความศักดิ์สิทธิ์เข้มขลัง ด้วยพลังอาคมปลุกเสก อภินิหารเด่นดังทางด้านแคล้วคลาด อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม ใครเห็นที่ไหนรีบเก็บเอาไว้เพราะเป็นของดีที่หายากแล้วในปัจจุบัน หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง” จ.สมุทรสาคร เกจิอาจารย์ผู้สร้างมงคลวัตถุได้ “ขลัง” ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนโดยเฉพาะ “พระเนื้อโลหะ” ที่เรียกว่า “เนื้อพันแปดไฟ” เพราะต้อง “หลอมโลหะแผ่นจารยันต์” ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนได้ “พันแปดครั้ง” แล้วจึงเทเป็น “องค์พระเครื่อง” ด้วยเหตุนี้พระเครื่องของท่านจึงมีความขลังและพุทธานุภาพเหมือนดั่ง “เหนือลิขิต??ประกาศิตฟ้าดิน??” เนื่องจากช่วยเหลือ “ชีวิตผู้คน” แถบ “สมุทรสาคร” มาแล้วจำนวนมากนอกจากนี้

           “เหรียญทุกรุ่น” ของท่านล้วนแต่เป็นเหรียญที่เปี่ยมไปด้วยพุทธานุภาพมีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่กล่าวขวัญกันมากมายมีประสบการณ์เกินกว่าพรรณนาได้หมด “หลวงปู่สาย วัดหนองสองห้อง” เป็นพระเถระที่มีจริยาวัตรงดงาม ผิวพรรณผ่องใส มีสง่าราศีเจิดจ้า ใครได้พบเห็นเป็นต้องศรัทธาเลื่อมใส จึงทำให้มีลูกศิษย์มากมายทั้งบ้านใกล้เรือนไกล ตลอดชีวิตอันยาวนาน 94 ปีของท่าน มีศีลบริสุทธิ์ครบถ้วนจึงทำให้พระเถระองค์นี้มี “ญาณสมาธิอันแกร่งกล้า” สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆได้เหมือนตาเห็นอย่างเช่นเมื่อคราวที่ “นายพิศาล มูลศาสตร์สาทร” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่เคารพนับถือท่านไปเยี่ยมเยียน “หลวงปู่สาย” มักจะบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าให้ทราบก่อนไปถึงทุกครั้งจึงสร้างความประหลาดใจให้ “นายพิศาล” เป็นอย่างมาก

 

...“หลวงปู่สาย” เป็นพระเถระที่ชาว “บ้านแพ้ว สมุทรสาคร” มีความศรัทธาเลื่อมใสมาก เพราะท่านเป็น พระแท้ พระบริสุทธิ์ ดำรงสมณเพศด้วยความเคร่งครัดและด้วยศีล สมาธิจนเกิดปัญญาผ่องใส กระทั่งท่านมีวัยได้ 94 ปี 8เดือน 7วัน จึงถึงกาลแห่งเวลาอำลาโลกไปด้วยความสงบเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2529 สร้างความอาลัยให้ลูกศิษย์ชาวสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก คงไว้แต่อนุสรณ์แห่งความดีอีกทั้งร่างกายของท่านก็ “ไม่เน่าเปื่อย” ยังคงมีสภาพเดิมเป็นที่น่าอัศจรรย์ creditเขี้ยว